วิตามิน B3 (Niacinamide) ในสกินแคร์: ความเข้มข้นและประโยชน์ที่คุณควรรู้
วิตามิน B3 (Niacinamide) ในสกินแคร์: ความเข้มข้นและประโยชน์ที่คุณควรรู้

วิตามิน B3 (Niacinamide) ในสกินแคร์: ความเข้มข้นและประโยชน์ที่คุณควรรู้


Niacinamide หรือ วิตามิน B3 เป็นส่วนผสมยอดนิยมในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เนื่องจากมีคุณสมบัติหลากหลาย ทั้งช่วยลดรอยแดง รอยดำ ควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว อย่างไรก็ตาม การเลือกความเข้มข้นที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

คุณสมบัติเด่นของ Niacinamide

ช่วยลดสิวและควบคุมความมัน

  • ช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันในผิว ลดความมันส่วนเกิน ทำให้ลดการอุดตันของรูขุมขน
  • ช่วยลดการอักเสบของสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบและสิวผด

ลดรอยดำ รอยแดง

  • ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ทำให้รอยดำจากสิวและจุดด่างดำจางลง
  • ลดรอยแดงจากการระคายเคืองหรือสิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ

กระชับรูขุมขน

  • ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันและเสริมการทำงานของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น

ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง

  • ช่วยเพิ่มการผลิตเซราไมด์ (Ceramide) ทำให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น ไม่แห้งลอก
  • เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิว

ลดเลือนริ้วรอย

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ทำให้ผิวดูเต่งตึง ยืดหยุ่น และอ่อนเยาว์

วิตามิน B3 (Niacinamide) ในสกินแคร์: ความเข้มข้นและประโยชน์ที่คุณควรรู้

ความเข้มข้นของ Niacinamide และการใช้งาน

  • 2% – 5%
  • เหมาะสำหรับผิวบอบบางหรือผู้เริ่มต้นใช้
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
  • ลดรอยแดงและช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
  • 5% – 10%
  • สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนในการลดรอยดำ รอยแดงจากสิว
  • ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน กระชับรูขุมขน และลดการเกิดสิว
  • เพิ่มความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว
  • เกิน 10%
  • บางผลิตภัณฑ์อาจมี Niacinamide สูงกว่า 10% แต่ควรใช้อย่างระมัดระวัง
  • ความเข้มข้นสูงเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะในผิวบอบบาง

วิธีใช้ Niacinamide ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

  1. ใช้หลังทำความสะอาดผิว และก่อนลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ
  2. ใช้ทั้งเช้าและเย็นได้ เนื่องจาก Niacinamide มีความเสถียรสูง ไม่ทำปฏิกิริยากับแสงแดด
  3. สามารถใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่นได้ดี เช่น วิตามิน C, Retinol หรือกรดไฮยาลูรอนิค

คำแนะนำ:

  • สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ (เช่น 2-5%) แล้วค่อยๆ เพิ่มไปถึง 10% หากผิวรับได้
  • หากใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว (เช่น AHA, BHA) ควรสังเกตว่าผิวระคายเคืองหรือไม่

Niacinamide เหมาะกับใคร

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ในการดูแลผิว มีประโยชน์ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่เป็นสิว มักเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เนื้องบางเบา และช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า กระชับรูขุมขน และยังช่วยป้องกันรูขุมขนอุดตันอีกด้วย

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาสิว ผิวมัน รูขุมขนกว้าง
  • เหมาะกับคนที่มีรอยดำ รอยแดงจากสิว
  • เหมาะกับคนที่ต้องการให้ผิวกระจ่างใสและมีความยืดหยุ่น
  • เหมาะกับคนที่ต้องการผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ
  • เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง ต้องการความชุ่มชื้น

ผลิตภัณฑ์ของ VIKKASKINCARE ตัวไหนบ้างที่มี Niacinamide?

VIKKASKINCARE จึงของแนะนำ VIT ACTIVE B3 Zinc PCA  เซรั่มลดสิว จากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีส่วนผสมของ 5% Niacinamide เป็นส่วนผสมหลัก และยังมีสารสกัด พร้อมผสานคุณค่าจาก Zinc PCA และ BHA ช่วยดูแลปัญหาสิว อีกทั้งชวยควบคุมความมันสาเหตุหนึ่งของปัญหาสิว พร้อมด้วย Ceramide ช่วยบำรุงให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื้น ผิวเรียบเรียน พร้อมเผยผิวหน้าเปล่งปลั่ง แลดูกระจ่างใส เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ไม่ระคายเคืองง่าย

หากกำลังมองหาสกินแคร์ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวแบบครอบคลุม Niacinamide คือส่วนผสมที่คุณไม่ควรพลาด!