ผิวไหม้แดด ( sunburn ) คือ ภาวะที่แสงแดดมาทำลายผิวโดยตรง มักจะเกิดในคนที่โดนแสงแดแรงๆ เป็นเวลานานๆ จะมีอาการ แสบ แดง คัน หลังจากโดนแดด 8 ชม. ผิวไหม้แดดแบ่งออกเป็น 3 ระดับ

1. ผิวไหม้แดดระดับน้อย (First-degree Sunburn)
จะทำลายผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) มีอาการแดง แสบเล็กน้อยบริเวณที่โดนแดด
วิธีฟื้นฟู :
ทำให้ผิวเย็นลง
- ล้างบริเวณที่ไหม้ด้วย น้ำเย็น (แต่ไม่ใช่น้ำแข็ง) หรือใช้ผ้าชุบน้ำเย็นวางบนบริเวณที่มีอาการ ประมาณ 10-15 นาที
- การประคบเย็นจะช่วยลดความร้อนและการอักเสบใต้ผิวหนัง
เพิ่มความชุ่มชื้น
- ใช้ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทาบริเวณที่แดงเพื่อช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว และเพิ่มความชุ่มชื้น
- แนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Aloe Vera, แพนทีนอล, หรือ ไฮยาลูรอนิค แอซิด
ดื่มน้ำมากๆ
- น้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายใน ลดการสูญเสียน้ำในชั้นผิว
ป้องกันการระคายเคืองเพิ่มเติม
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดอีกในช่วง 24-48 ชั่วโมง
- หากต้องออกแดด ให้ใส่เสื้อคลุมและใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30+
2. ผิวไหม้แดดระดับปลานกลาง (Second-degree Sunburn)
มักจะมีอาการแดง ปวดแสบ คัน และอาจจะเริ่มลอกเป็นแผ่น ลึกถึงชั้น หนังกำพร้า (Epidermis) และ หนังแท้ (Dermis) และผิวอาจจะเริ่มเกิดตุ่มน้ำเล็กๆ ระดับนี้อาจจะต้องเพิ่มการรับประทานยาแก้ปวด หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวบ่อยๆ ใส่เสื้อผ้าหลวมๆเพื่อลดการระคายเคือง
วิธีฟื้นฟู:
ลดความร้อนในผิว
- ใช้น้ำเย็นชำระล้างบริเวณที่ไหม้ หรือใช้ผ้าชุบน้ำเย็นวางทับผิว 10-15 นาที เพื่อระบายความร้อน
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำแข็งโดยตรง เพราะอาจทำให้ผิวเสียหายมากขึ้น
บรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มี Aloe Vera, แพนทีนอล, หรือเซราไมด์ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
- หากมีตุ่มน้ำห้ามเจาะ ควรปล่อยให้หายเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ป้องกันผิวลอกและดูแลการฟื้นฟู
- หากผิวเริ่มลอก ควรปล่อยให้ลอกออกเองตามธรรมชาติ ห้ามแกะหรือดึงผิว
- ใช้ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สม่ำเสมอเพื่อป้องกันผิวแห้งและช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
ดูแลจากภายใน
- ดื่มน้ำปริมาณมากเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
- หากมีอาการปวดมาก สามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
หลีกเลี่ยงแสงแดด
- งดการโดนแดดในช่วงฟื้นฟู
- หากจำเป็นต้องออกแดด ให้ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 50+ และสวมเสื้อผ้าคลุมผิว
3. ผิวไหม้แแดดระดับรุนแรง (Third-degree Sunburn)
ถือเป็นภาวะที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรง มักจะมีผิวหนังลอก ผุพอง มีไข้ หนาวสั่น ภาวะนี้ต้องระวังมากๆ สิ่งสำคัญคือการปฐมพยาบาลในเบื้งต้นและรีบไปพบแพทย์ทันที
ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- ลดความร้อน: ล้างบริเวณผิวไหม้ด้วยน้ำเย็น (ไม่ใช่น้ำแข็ง) หรือนำผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่โดนแดดเป็นเวลา 10–15 นาที เพื่อลดอุณหภูมิของผิวหนัง
- หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะตุ่มน้ำ: หากมีตุ่มน้ำหรือน้ำหนองเกิดขึ้น อย่าแตกหรือกด เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ
- ดื่มน้ำมากๆ: เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำจากการที่ร่างกายเสียของเหลว
หลีกเลี่ยง
- ไม่ทาครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือสารระคายเคือง
- ห้ามสัมผัสผิวที่ไหม้แรงๆ หรือขัดถูบริเวณผิวไหม้
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- หากมีอาการแย่ลง เช่น ไข้สูง หนาวสั่น หรือผิวหนังหลุดลอกเป็นบริเวณกว้าง ควรรีบเข้ารับการดูแลจากแพทย์โดยทันที
- การใช้ยาบรรเทาอาการ เช่น ยาแก้ปวด (Paracetamol หรือ Ibuprofen) เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ
การพบแพทย์ทันทีสำคัญมาก เพราะการไหม้แดดระดับนี้อาจเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงได้!
ผิวไหม้แดด ป้องกันได้อย่างไร
การป้องกันผิวไหม้แดดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพผิวและลดความเสี่ยงต่ออันตรายที่เกิดจากรังสียูวี (UV) ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผิวหนังเรื้อรัง เช่น มะเร็งผิวหนัง และความเสื่อมก่อนวัยของผิว วิธีป้องกันมีดังนี้
1. ใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสม
- เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีคุณสมบัติป้องกันรังสี UVA และ UVB
- ทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสม (ประมาณ 2 ข้อนิ้วสำหรับผิวหน้า และเพิ่มตามส่วนของร่างกาย)
- ทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15-30 นาที และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังว่ายน้ำ/เหงื่อออก
2. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในช่วงเวลาที่แรงที่สุด
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่รังสียูวีแรงที่สุด
- หากต้องอยู่กลางแจ้ง ควรพยายามหาที่หลบแดดหรืออยู่ใต้ร่มเงา
3. สวมใส่เสื้อผ้าป้องกันแดด
- สวมเสื้อผ้าเนื้อหนาหรือแบบกันรังสียูวี (UPF-rated clothing)
- ใช้หมวกปีกกว้างป้องกันแสงแดดบริเวณหน้าและลำคอ
- ใส่แว่นตากันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVA/UVB ได้
4. ดูแลตัวเองเพิ่มเติม
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดผลกระทบจากความร้อน
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำ
5. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความไวต่อแดด
- ระวังการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม เช่น Retinol, AHA, หรือน้ำมันหอมระเหยบางชนิด หากต้องใช้งานกลางแจ้ง
การป้องกันผิวไหม้แดดไม่เพียงช่วยรักษาสุขภาพผิวในระยะยาว แต่ยังช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นได้จากแสงแดด
เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์จาก VIKKASKINCARE ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงและสุขภาพดี