ไม่มีสินค้าในตะกร้า
สาเหตุที่ทำให้เกิดสิว ป้องกันอย่างไรดี ?
สาเหตุหลักๆ ของการเกิดสิว เกิดจากการที่รูขุมขนของเรา มีต่อมไขมันอยู่ข้างๆ รูขุมขน และเมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมัน เพื่อจะไปเลี้ยงสิว แต่ออกมาจากรูขุมขนไม่ได้ ก็จะทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขน จะเรียกว่า สิวอุดตัน แต่ปัจจัยที่กระตุ้นเรืองของการผลิตไขมันที่มากกว่าปกติ ได้แก่
1. กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ ซึ่งส่งผลให้ฮอร์โมนเพศชายเพิ่มขึ้น แล้วกระตุ้นต่อมไขมันที่ใบหน้าผลิตไขมันออกมามากกว่าปกติ จนไปอุดตัดรูขุมขนและเกิดสิวขึ้นตาม
2. มลภาวะ สภาวะแวดล้อม
ฝุ่นและมลภาวะต่างๆ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้สิวขึ้น สาเหตุนี้มักจะเกิดขึ้นจากการมีสิ่งสกปรกสะสมอยู่ หากล้างหน้าไม่สะอาดเพียงพอ ก็อาจทำให้ปัญหาสิวตามมา ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวหัวดำ ผิวไม่สม่ำเสมอและผิวหมองคล้ำ
3. ความเครียด
ความเครียดจากการทำงาน การเรียน ความเครียดจากการใช้ชีวิตประจำวัน ความเครียดเหล่านั้นแหละที่เป็นสาเหตุการเกิดสิว ฮอร์โมนความเครียด ซึ่งกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกิด และทำให้ผิวเป็นแหล่งกำเนิดสิว
4. ชอบบีบสิวและสิว
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น มือที่หยิบจับสิ่งของเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หากมือที่เราจับสิ่งของมาสัมผัสใบหน้า อาจก่อให้เกิดปัญหาสิวตามมา
5. การใส่หน้ากากอนามัย
หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งที่สกปรก การใช้ซ้ำจะยิ่งทำให้มีสิ่งสกปรกสะสมอยู่บริเวณที่เราใส่แมส และหากล้างหน้าไม่สะอาดก็ยิ่งเกิดการหมักหมมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่เราใช้ทุกวัน อาจเกิดการอุดตันจนทำให้เป็นสิวขึ้นบริเวณที่เราใส่แมส
วิธีป้องกันสิวเกิดซ้ำๆ สามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง
การดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสิวที่ต้องการวิธีการดูแลอย่างถูกต้องและปลอดภัย หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาสิวและต้องการหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม วิกก้าสกินแคร์จะแนะนำเซตรักษาสิวที่ครบครันสำหรับทุกขั้นตอนของการดูแลผิว กับ ACNE EXPERT CLINIC BY Dr.koong
1. การล้างหน้า
ขั้นตอนแรกในการรักษาสิวคือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกต้อง เลือกใช้ โฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนและปราศจากสารเคมีที่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดการอักเสบ เช่น ILIFE SOFT GEL ที่ช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินในรูขุมขน
2. โทนเนอร์หรือน้ำตบ
หลังจากล้างหน้า การใช้ โทนเนอร์ จะช่วยปรับสมดุล pH ของผิว โทนเนอร์ที่ดีสำหรับผิวเป็นสิวควรมี ส่วนช่วยในการปลอบประโลมผิว ลดกระบวนการอักเสบของผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ชาวยลดโอกาสในการเกิดสิว และช่วยคุมมัน ลดการผลิตน้ำมันของผิว
3. เซรั่มรักษาสิว
เซรั่มเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ช่วยดูแลผิวที่มีปัญหาสิว ควรเลือกเซรั่มที่มี Niacinamide และ สารที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น Ceramide 1,3,6 ที่ช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิวและลดการเกิดสิวใหม่ รวมทั้งช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวด้วย
4. มอยส์เจอไรเซอร์
แม้ว่าผิวเป็นสิวจะมีน้ำมันส่วนเกิน แต่การใช้ มอยส์เจอไรเซอร์ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาความชุ่มชื้น ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์สูตรบางเบา ที่ไม่อุดตันรูขุมขนและปราศจากน้ำมัน (Oil-free) ควรมีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid เพื่อให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ผิวมันเกินไป
5. ครีมกันแดด
การใช้ ครีมกันแดด เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีสูตร Non-comedogenic เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
6. การรักษาเฉพาะจุด
สำหรับสิวที่อักเสบมากๆ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์รักษาเฉพาะจุดที่มี Benzoyl Peroxide เพื่อช่วยลดอาการบวมแดงและทำให้สิวยุบลงได้เร็วขึ้น
7. การมาส์กหน้า
การมาส์กหน้าเป็นการดูแลผิวเพิ่มเติมที่สามารถทำได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เลือกใช้ มาส์กที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น Ceramide ทำให้ผิวแข็งแรง และ Tea Tree Oil , Quora Noni ที่ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียดี ลดแบคทีเรียไม่ดีบนผิว ลดอาการแดง ลดการอักเสบ ลดการเกิดสิว และรอยดำแดงดูดีขึ้น
สรุป
การรักษาสิวไม่ใช่เรื่องยากหากเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและใส่ใจในการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง การเลือกเซตรักษาสิวที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การล้างหน้าไปจนถึงการป้องกันสิวซ้ำจะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาเรียบเนียนและสุขภาพดีได้อย่างรวดเร็ว
